การสังคายนา
เรื่อง การสังคายนา
1.การสังคายนา หมายถึง การรวบรวมพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อสอบทานความถูกต้องตรงกัน และจัดเป็นหมวดหมู่ เพื่อง่ายต่อการท่องจำ การศึกษา และการเผยแพร่
2.สาเหตุที่ต้องมีการสังคายนา คือ
1) เพื่อธำรงรักษาคำสอนพระพุทธศาสนาเอาไว้ไม่ให้สูญหาย
2) เพื่อธำรงรักษาคำสอนพระพุทธศาสนาไม่ให้คลาดเคลื่อนไป
3) เพื่อให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ได้สืบไป
3.การสังคายนาครั้งแรก (ครั้งที่ 1) กระทำขึ้นเมื่อ พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 3 เดือน
4.การสังคายนาครั้งที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาคือ
การสังคายนาครั้งที่ 3 เพราะครั้งนี้ทำให้พระพุทธศาสนาเผยแผ่ไปต่างแดน
5.พระสงฆ์เถระผู้ที่เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนายังดินแดนสุวรรณภูมิ ได้แก่ พระโสณเถระ และ พระอุตตรเถระ
6.การสังคายนาที่ถือว่ากระทำเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เกิดขึ้นที่ วัดโพธาราม จังหวัดเชียงใหม่ ในรัชสมัย พระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา
7.การจัดพิมพ์พระไตรปิฎกด้วยตัวอักษรไทยเป็นครั้งแรกของโลก เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2431 จัดที่ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
8.รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาสถาบันการศึกษาสงฆ์ชั้นสูง2แห่ง คือ
1) มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ณ วัดมหาธาตุ
2) มหามกุฎราชวิทยาลัย ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
9.พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ เกิดขึ้นในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย นับเป็นพระไตรปิฎกฉบับภาษาไทยที่สมบูรณ์ที่สุด
10.สรุปการสังคายนามีผลต่อพระพุทธศาสนา ผู้ศึกษา และศาสนิกชน คือ
1) ทำให้คำสอนของพระพุทธเจ้าได้รับการรวบรวมไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และเป็นระบบระเบียบ
2) ทำให้พุทธศาสนามีแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน และได้สืบทอดต่อไปในอนาคต
3) การสังคายนาทำให้เกิดพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นเสมือนตำราให้ผู้ศึกษาและศาสนิกชนสามารถใช้ศึกษาค้นคว้าและนำไปปฏิบัติ
4) ทำให้สะดวกในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบไป
5) ทำให้ผู้ศึกษาและศาสนิกชนมีตำราในการใช้อ้างอิงศึกษาวิเคราะห์ทำความเข้าใจร่วมกันได้อย่างลึกซึ้ง ผู้ศึกษาและศาสนิกชนสามารถใช้ตำราหรือพระไตรปิฎกเป็นมาตรฐานในการตรวจสอบความเข้าใจและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ในพุทธศาสนา
การสังคายนา
|
สาเหตุ/ ผล
|
เวลา/ สถานที่/ ผู้กระทำ/ ผู้อุปถัมภ์
|
ครั้งที่ 1
|
สาเหตุ:
-พระภิกษุสุภัททะ กล่าววาจาในทำนองดูหมิ่นพระพุทธองค์และแสดงความดีใจเมื่อได้ข่าวว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
-เพื่อธำรงรักษาพระธรรมวินัยเอาไว้ไม่ให้สูญหายหรือคลาดเคลื่อนไป
ผล: แนวการวางระเบียบพระธรรมวินัยถูกจัดเป็นรูปแบบที่เรียกว่า พระไตรปิฎก และยังคงมีการรักษาสิ่งที่ได้จัดรวบรวมอยู่ในพระไตรปิฎกฉบับเถรวาทโดยไม่มีการปรับแก้มาจนปัจจุบัน
|
เวลา: 3 เดือนหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
สถานที่: ถ้ำสัตบรรณคูหา เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ
ผู้กระทำ: พระมหากัสสปะ พระอานนท์ พระอุบาลี พระสงฆ์เข้าร่วม 500 รูป
ผู้อุปถัมภ์: พระเจ้าอชาตศัตรู
|
ครั้งที่ 2
|
สาเหตุ: พระยสกากัณฑกบุตร พบเห็นข้อปฏิบัติย่อหย่อน 10 ประการทางพระวินัยของภิกษุวัชชีบุตร เช่น ควรเก็บเกลือไว้ในเขาสัตว์เพื่อรับประทานได้ ควรฉันอาหารยามวิกาลได้ ควรรับเงินทองได้ เป็นต้น พระยสะกากัณฑกบุตรจึงชวนพระเถระต่าง ๆ ให้ช่วยกันวินิจฉัย แก้ความถือผิดครั้งนี้
ผล: การทำสังคายนาครั้งนี้มีพระสงฆ์มาประชุมร่วมกัน 700 รูป ดำเนินการอยู่เป็นเวลา 8 เดือน จึงเสร็จสิ้น
|
เวลา: พ.ศ. 100
สถานที่: วาลิการาม เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี
ผู้กระทำ: พระสัพพกามี พระสาฬหะ พระขุชชโสภิตะ
พระวาสภคามิกะ พระเรวตะ พระสัมภูตะสาณวาสี
พระยสกากัณฑกบุตร พระสุมนะ
ผู้อุปถัมภ์: พระเจ้ากาฬาโศก
|
ครั้งที่ 3
|
สาเหตุ: พระนอกศาสนาปลอมเข้ามาบวชมากขึ้น ทำให้พระพุทธศาสนามัวหมอง
ผล: มีพระสงฆ์มาประชุมร่วมกัน 1,000 รูป ดำเนินการอยู่เป็นเวลา 9เดือน จึงเสร็จสิ้น ในการทำสังคายนาครั้งนี้ พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ได้แต่งคัมภีร์กถาวัตถุ ซึ่งเป็นคัมภีร์หนึ่งในพระอภิธรรม และเมื่อทำสังคายนาเสร็จแล้ว ก็มีการส่งคณะทูตไปประกาศพระพุทธศาสนาในประเทศต่าง ๆ มีดังนี้
-พระมหินทเถระ โอรสของพระเจ้าอโศกมหาราช นำพระพุทธศาสนาไปประดิษฐานในลังกา
-พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ นำพระพุทธศาสนามาเผยแผ่ยังดินแดนสุวรรณภูมิ
|
เวลา: พ.ศ. 234
สถานที่: อโศการาม กรุงปาฏลีบุตร แคว้นมคธ
ผู้กระทำ: พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ
ผู้อุปถัมภ์: พระเจ้าอโศกมหาราช
|
ครั้งที่ 4
|
สาเหตุ: ให้พระศาสนาประดิษฐานมั่นคงในลังกาทวีป
ผล: ศาสนาพุทธมั่นคงประเทศศรีลังกา
|
เวลา: พ.ศ. 238 (บางตำราระบุว่า พ.ศ. 236)
สถานที่: ถูปาราม เมืองอนุราธบุรี
(บางตำราระบุว่า ชาลันธร หรือ กัษมีร์)
ผู้กระทำ: พระมหินทเถระ พระอริฏฐะ พระสงฆ์เข้าร่วม 68,000 รูป
(บางตำราระบุว่า นิกายมหายาน)
ผู้อุปถัมภ์: พระเจ้าเทวานัมปิยะติสสะ
(บางตำราระบุว่า พระเจ้ากนิษกะ)
|
ครั้งที่ 5
|
สาเหตุ: พระสงฆ์ในลังกาเห็นพ้องต้องกันว่า พระพุทธวจนะที่ถ่ายทอดโดยวิธีท่องจำอาจจะขาดตกบกพร่องในภายภาคหน้า
ผล: พระสงฆ์ 500 รูป ประชุมกันสวดซ้อมแล้วจารึกพุทธพจน์ลงในใบลาน
|
เวลา: พ.ศ. 433 (บางตำราระบุว่า 450)
สถานที่: อาโลกเลณสถาน มตเลชนบท ประเทศศรีลังกา
ผู้กระทำ: พระรักขิตมหาเถระ และพระสงฆ์ชาวลังกา
ผู้อุปถัมภ์: พระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย
|
ครั้งที่ 6
|
สาเหตุ: พระไตรปิฎกในอินเดียไม่มีอรรถกถา
ผล: ทำเป็นภาษาบาลี
|
เวลา: พ.ศ. 956
สถานที่: วัดมหาวิหาร ประเทศศรีลังกา
ผู้กระทำ: พระพุทธโฆษาจารย์
ผู้อุปถัมภ์: พระเจ้ามหานาม
|
ครั้งที่ 7
|
สาเหตุ: เป็นการชำระอรรถกถา ประเทศศรีลังกาขาดคัมภีร์ฎีกา (คัมภีร์ที่อธิบายอรรถกถา)
ผล: อธิบายความจากครั้งที่ 6 ให้ชัดเจน ตัวพระไตรปิฎก เรียกว่าบาลี คำอธิบายพระไตรปิฎก เรียกว่า อรรถกถา คำอธิบายอรรถกถา เรียกว่า ฎีกา
|
เวลา: พ.ศ. 1587
สถานที่: ประเทศศรีลังกา
ผู้กระทำ: พระกัสสปเถระ และพงสงฆ์ 1,000 รูป
ผู้อุปถัมภ์: พระเจ้าปรากรมพาหุมหาราช
|
ครั้งที่ 8
|
สาเหตุ: ชำระพระไตรปิฎกให้ชัดเจน พระไตรปิฎกยังขาดตกบกพร่องผิดเพี้ยนและไม่ครบ
ผล: ใช้เวลา 1 ปี จึงสำเร็จสังคายนา ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 1 ในประเทศไทย
|
เวลา: พ.ศ. 2020
สถานที่: วัดโพธาราม จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
ผู้กระทำ: พระธรรมทินนเถระและพระภิกษุหลายร้อยรูป
ผู้อุปถัมภ์: พระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา
|
ครั้งที่ 9
|
สาเหตุ: พระผู้ใหญ่ประพฤติย่อหย่อนในพระธรรมวินัย
ผล: ชำระพระไตรปิฎกให้ชัดเจน
มีการจารึกลงในใบลาน สังคายนาครั้งนี้สำเร็จภายใน 5 เดือน จัดว่าเป็นสังคายนาครั้งที่ 2 ในประเทศไทย
|
เวลา: พ.ศ. 2331
สถานที่: วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ผู้กระทำ: พระสงฆ์ 218 รูป กับราชบัณฑิตาจารย์อุบาสก 32 คน
ผู้อุปถัมภ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
|
ครั้งที่ 10
|
สาเหตุ: พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสวยราชย์ได้ 25 ปีทรงปรารภจะบำเพ็ญพระมหากุศล ทรงเห็นว่าพระไตรปิฎกที่เขียนไว้ในใบลานไม่มั่นคง ทั้งจำนวนก็มากยากที่จะรักษา และเป็นตัวขอม ผู้ไม่รู้อ่านไม่เข้าใจ
ผล: พิมพ์พระไตรปิฎกเป็นเล่มแบบฝรั่ง โดยคัดลอกตัวขอมในคัมภีร์ใบลาน เป็นตัวอักษรไทย แล้วชำระแก้ไขและพิมพ์เป็นเล่มหนังสือ รวม 39 เล่ม เริ่มชำระและพิมพ์ตั้งแต่พ.ศ.2431 สำเร็จเมื่อพ.ศ.2436 จำนวน 1,000 ชุด นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการพิมพ์พระไตรปิฎกเป็นเล่มด้วยอักษรไทย นับเป็นการสังคายนาครั้งที่ 3 ที่ทำในประเทศไทย
|
เวลา: พ.ศ. 2431
สถานที่: พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ผู้กระทำ: สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ครั้งดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นวชิรญาณวโรรส และสมเด็จพระสังฆราช (สาปุสฺสกาว) ครั้งยังเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นประธาน มีพระสงฆ์เข้าประชุมเป็นสังคีติการกสงฆ์ จำนวน 110 รูป
ผู้อุปถัมภ์: พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
|
ครั้งที่ 11
|
สาเหตุ: สมเด็จพระสังฆราชทรงดำริว่า พระไตรปิฎกมีข้อคลาดเคลื่อนอันเกิดจากความประมาทพลาดพลั้งในการคัดลอกและตีพิมพ์ เห็นควรทำการสังคายนาพระธรรมวินัยตรวจสอบชำระให้บริสุทธิ์บริบูรณ์
ผล: ตีพิมพ์พระไตรปิฎกขึ้นใหม่ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เริ่มแต่พ.ศ.2528 และเสร็จสิ้นลงเมื่อพ.ศ.2530 นับเป็นการสังคายนาครั้งที่ 4 ที่ทำในประเทศไทย
|
เวลา: พ.ศ. 2530
สถานที่: พระตำหนักสมเด็จวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ผู้กระทำ: สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก (วาสนมหาเถระ) เป็นประธาน
ผู้อุปถัมภ์: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
|
Comments
Post a Comment